ตัดสินใจเลือกจัดฟันแบบไหนดีนะ! แล้วจัดฟันแต่ละแบบต่างกันอย่างไร ?

ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกว่าจะเริ่มจัดฟันแบบไหนดี ในอันดับแรกคุณก็ต้องมาดูปัญหาฟันของคุณก่อนว่าปัญหาฟันของคุณเหมาะที่จะจัดฟันแบบไหน รูปแบบของการจัดฟันนั้นมีหลากหลายแบบเลยจริงๆ มีทั้งแบบจัดฟันแบบใส เคลื่อนฟันทั้งปากหรือเคลื่อนแค่ฟันหน้าก็มีหลายแบบ จัดฟันแบบใส่เหล็กข้างนอก จัดฟันแบบใส่เหล็กข้างใน และแบบอื่นๆในทางการทันตแพทย์ ดังนั้นในบทความนี้เราจะยกตัวอย่างและเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างการจัดฟันใสและการจัดฟันเหล็ก ให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกวิธีการจัดฟันที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้อย่างเหมาะสม มั่นใจ และคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

การจัดฟันแบบเหล็ก (Braces)

จัดฟันเหล็กเป็นการจัดฟันที่เป็นที่นิยมมากที่สุดมาเป็นเวลายาวนาน ซึ่งอุปกรณ์จะประกอบด้วยการใส่เหล็กจัดฟัน ถูกติดไว้ที่หน้าฟัน (bracket) ที่ใช้ในการปรับรูปร่างของฟันและแก้ไขปัญหาฟันนั่นเอง

ข้อดีของการจัดฟันแบบเหล็ก

จัดฟันเหล็กสามารถปรับรูปร่างและฟันที่เรียงไม่สวย ได้อย่างแม่นยำ และมีประสิทธิภาพ โดยการเคลื่อนย้ายฟันไปยังตำแหน่งที่ถูกต้อง ซึ่งช่วยให้ฟันมีรูปร่างที่เป็นระเบียบและสวยงามขึ้น

ผลการรักษา : สามารถแก้ไขปัญหาฟันที่ยากและง่ายได้อย่างแม่นยำ รักษาปัญหาฟันเก ฟันห่าง ฟันซ้อน ฟันยื่น ได้

ข้อเสียของการจัดฟันแบบเหล็ก

– การใส่เหล็กจัดฟันจะสามารถมองเห็นได้ง่าย เนื่องจากมีลวดเหล็กที่ติดอยู่บนฟันส่งผลต่อบุคลิกภาพ

– ความไม่สะดวกในการใช้งานการใส่เหล็กจัดฟันอาจทำให้ไม่สะดวกในการรับประทานอาหารหรือตอนแปรงฟัน

– การจัดฟันหล็กจะมีระยะเวลาในการจัดฟันเป็นกว่านานกว่าจัดฟันแบบใส

– อาจจะมีค่าใช้จ่ายบานปลายเพิ่มเติม

การจัดฟันแบบใส (Clear Aligners)

จัดฟันแบบใสสามารถแก้ปัญหา ฟันเก ฟันห่างได้ ได้อย่างแม่นยำ และมีประสิทธิภาพ วางแผนการักษาผ่านระบบคอมพิวเตอร์ 3D ซึ่งอุปกรณ์จัดฟันใสมีลักษณะเป็นวัสดุสีใส พลาสติกแบบอย่างดี (Aligners) ผลิตโดยแพทย์เฉพาะทางการจัดฟัน ผลิตขึ้นมาสำหรับแต่ละบุคคล ใช้ครอบไปที่ตัวฟันเพื่อให้เคลื่อนที่ไปทำอุปกรณ์ไปที่ละชุดตามทันตแพทย์แพทย์แนะนำ

ข้อดีของการจัดฟันแบบใส

– อุปกรณ์จัดฟันเป็นสีใสๆ สังเกตุได้ยากเมื่อสวมใส่ มองไม่แทบไม่เห็นว่ากำลังจัดฟันอยู่ ผู้ที่จัดฟันแบบใสจะไม่รู้สึกอึดอัดหรือไม่มั่นใจเมื่อต้องออกมาใช้ชีวิตประจำวันหรือ พูดคุย ในสาธารณะ

– สะดวกสบายและไม่ทำร้ายเนื้อฟัน อุปกรณ์แบบใสนั้นอ่อนโยนกับเนื้อเยื่อปากมากกว่าการใส่เหล็กจัดฟัน (brackets) และลวดที่ใช้ในการจัดฟันเหล็ก

– สามารถสวมใส่และถอดออกได้ง่ายๆเมื่อต้องทานอาหารหรือแปรงฟัน

– ไม่มีข้อจำกัดในการรับประทานอาหาร เนื่องจากจัดฟันแบบใสสามารถถอดออกได้ จึงสามารถรับประทานอาหารได้ทุกประเภท

ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส

– ความจำเป็นในการสวมใส่ตลอดเวลาการรักษา จำเป็นต้องใส่อุปกรณ์อย่างน้อย 22 ชั่วโมง/วัน เนื่องจากฟันเคลื่อนตามอุปกรณ์จัดฟันแบบใส

– ในระหว่างการใส่เครื่องจัดฟันแบบใสจะต้องจำกัดในการทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสี จำเป็นต้องถอดอุปกรณ์ออกทุกครั้งเพื่อป้องกันเศษอาหารสิ่งสกปรกค้างอยู่ในอุปกรณ์จัดฟัน

– แปรงฟันหรือบ้วนปากทุกครั้งหลังทานอาหาร ก่อนที่จะใส่อุปกรณ์จัดฟันแบบใส ลดการสะสมของเศษอาหารที่ติดตามซอกฟัน

ทั้งนี้ก่อนที่จะทำการเริ่มจัดฟันไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็จำเป็นจะต้องเข้าพบทันตแพทย์เพื่อทำการเคลียร์ช่องปากเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดฟันหากเราไม่ทำการเคลียร์ช่องปากจะทำให้มีผลกระทบในระหว่างการจัดฟันและอาจจะเกิดข้อเสียหลายอย่างตามมาได้ แล้วเคลียร์ช่องปากราคาเท่าไหร่ ? เคลียร์ช่องปากราคาจะขึ้นอยู่กับสภาพช่องปากของแต่ละบุคคล

สรุป

นอกจากข้อดีและข้อเสียในการจัดฟันทั้งสองแบบตามข้างต้น การเลือกวิธีการจัดฟันแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมของแต่ละบุคคล แต่ควรได้รับคำแนะนำและการปรึกษากับทันตแพทย์ผู้เฉพาะทางในการจัดฟันก่อน เป็นสิ่งสำคัญเพื่อตัดสินใจว่าวิธีการไหนที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องของปัญหาฟัน และงบในกระเป๋าของคุณ

อื่นๆ เพิ่มเติม