การจัดฟันมีกี่แบบ แล้วขั้นตอนการจัดฟันแบบไหนที่เหมาะกับตัวเรา

ขั้นตอนการจัดฟันแบบไหนที่เหมาะกับตัวเรา

การจัดฟันมีกี่แบบ แล้วขั้นตอนการจัดฟันแบบไหนที่เหมาะกับตัวเรา

เป็นคำถามสำหรับคนที่มีปัญหาฟันแล้วอยากจะศึกษามองหาที่จัดฟันอยู่ว่าการจัดฟันมีกี่แบบ แต่ละแบบมีวิธีและขั้นตอนการจัดฟันแตกต่างกันอย่างไร โดยจะยกตัวอย่างการจัดฟันมีกี่แบบ โดยเป็นการยกตัวอย่างของจัดฟัน 2 แบบที่เป็นที่นิยมที่สุดคือการจัดฟันแบบใสและการจัดฟันแบบเหล็ก รวมไปถึงการเปรียบเทียบการจัดฟันแบบเหล็กและจัดฟันแบบใสดียังไง

การจัดฟันแบบใส

1. การจัดฟันแบบใส

การจัดฟันแบบใสเป็นการจัดฟันโดยใช้อุปกรณ์แบบใสที่ทำจากวัสดุพลาสติกอย่างดีที่มีผิวสัมผัสแบบเรียบพิเศษกว่าการจัดฟันแบบโลหะ มีวัสดุคล้ายกับวัสดุอุดฟันติดเป็นจุดเล็กๆเพื่อช่วยในการจัดเคลื่อนฟันตามเครื่องมือจัดฟันแบบใส โดยทันตแพทย์ใช้เทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์3D ในการวางแผนการรักษาและผลิตเครื่องมือเฉพาะบุคคล แก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ไม่เหมาะสม รวมไปถึงการสบฟันที่ผิดปกติ

ลักษณะการจัดฟันแบบใส

เครื่องมือจัดฟันแบบใส ตอนจัดฟันแบบใสทันตแพทย์จะจัดเคลื่อนฟันไปตามเครื่องมือจัดฟันแบบใสโดยการครอบใส่ตัวเครื่องมือตามรูปฟัน เครื่องมือใสถูกออกพอดีกับฟันของเฉพาะบุคคลและเปลี่ยนชุดเครื่องมือตามคำแนะนำตามแแผนการรักษาของทันตแพทย์ เครื่องมือจัดฟันใสใส่สบายไม่ระคายเคือง ไม่บาดช่องปาก สามารถทานอาหารได้ตามใจชอบ สามารถสวมและถอดเครื่องมือได้ง่าย

ขั้นตอนการจัดฟันแบบใส

– ประเมินฟันออนไลน์เบื้องต้นเพื่อดูปัญหาฟันและการสบฟันผิดปกติประเมินโดยทันตแพทย์ รวมไปถึงการสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ต้องเดิทางเข้ามาคลินิก

– หลังจากที่ตกลงจัดฟันใสเข้ามาพบทันตแพทย์ครั้งที่1 เพื่อทำการสแกนฟันและเอ็กซเรย์เป็นแบบ3D เพื่อวางแผนการรักษาและออกแบบเครื่องมือจัดฟันใสเฉพาะตัวบุคคล

– ถัดไปจะเป็นการเคลียร์ช่องปากเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการจัดฟันแบบใส เช่นขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด เป็นต้น

– ทันตแพทย์ทำนัดเข้ามาเพื่อติดปุ่ม Attachment และรับเครื่องมือเซ็ตแรกก่อน และมีการสอนใช้แอปพลิเคชันในการติดตามการรักษา

– จากนั้นสามารถติดตามผลการรักษาโดยทำการสแกนฟันผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือด้วยตัวเองได้ที่บ้าน อัปเดทกับทันแพทย์โดยตรง ไม่ต้องเข้ามาคลินิกทุกเดือนจนกว่าฟันจะจัดเรียงไปตามแผนการรักษาของทันตแพทย์

– หลังจากจัดฟันเสร็จแล้วขั้นตอนการจัดฟันแบบใสสุดท้าย เข้ามาคลินิกครั้งสุดท้ายเพื่อทำการขัดปุ่ม Attacment ออกและทำการสแกนฟันเพื่อทำรีเทนเนอร์ใส่รีเทนเนอร์คงสภาพฟันไว้

การจัดฟันแบบใสเหมาะกับใคร

การจัดฟันแบบใสเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฟันเก ฟันซ้อน ฟันไม่เรียงตัวสวย รวมไปถึงปัญหาการสบฟัน สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา เพราะไม่ต้องเข้ามาคลินิกเพื่อปรับเครื่องมือในทุกเดือนสามารถเปลี่ยนชุดเครื่องมือเองที่บ้านตามทันตแพทย์แนะนำ การจัดฟันแบบใสสามารถจัดได้ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ แต่จะแนะนำเป็นในวัยรุ่นสะส่วนใหญ่ การจัดฟันแบบใสควรเริ่มจัดเมื่อฟันแท้ขึ้นครบหมดแล้ว

จัดฟันแบบใสดียังไง?

ข้อดีการจัดฟันแบบใส

– วางแผนการรักษาด้วยระบบคอมพิวเตอร์3D ทันสมัย

– ขั้นตอนการจัดฟันไม่ยุ่งยาก ติดตามผลการรักษาผ่านแอปบนมือถือ ไม่ต้องเข้าคลินิกทุกเดือน

– ไม่กำจัดในการทานอาหาร เครื่องมือ สวม ถอด ง่ายๆใส่สบาย และไม่ระคาย ไม่บาดช่องปาก

– จัดฟันเสร็จตามแผนการรักษา รวดเร็ว ไม่ยื้อไข้

– ราคาเดียวจบ งบไม่บานปลาย

ข้อเสีย

– การจัดฟันแบบใส ต้องใส่อุปกรณ์ไม่ต่ำกว่า 22ชม.ต่อวัน ตลอดการรักษา ถอดออกเฉพาะตอนทานอาหารและตอนแปรงฟัน

การจัดฟันแบบโลหะ

2. การจัดฟันแบบโลหะ

การจัดฟันแบบโลหะคือการจัดฟันโดยใช้เครื่องมือที่ทำจากวัสดุโลหะ ในการปรับตำแหน่งฟันหรือเรียกว่าจัดฟัน เพื่อจัดระเบียบบการเรียงตัวของฟันไปตามขั้นตอนการจัดฟันให้เรียงตัวสวยงามขึ้นจากเดิม รวมไปถึงแก้ไขปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติ

ลักษณะของการจัดฟันแบบโลหะ

เครื่องมือในการจัดฟันแบบโลหะ ตอนจัดฟันทันตแพทย์ใช้เครื่องมือจัดฟันโลหะหรือแบล็คเก็ตติดแน่นไปบนผิวฟัน ซึ่งจะมีเส้นลวดจัดฟันรัดอยู่ในตัวแบล็คเก็ตและใช้ยางจัดฟันร่วมด้วย เพื่อจัดระเบียบฟันให้เคลื่อนไปตามตำแหน่งที่ถูกต้องตามแผนการรักษาที่ทันตแพทย์วางไว้ จัดฟันแบบโลหะค่อนข้างมีข้อจำกัดในการทานอาหารแบล็ตเก็ตอาจหลุดได้ อาจมีอาการปวดฟันในช่วงแรกๆหลังจากปรับเครื่องมือ

ขั้นตอนการจัดฟันแบบโลหะ

– เข้าพบทันตแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาและวางแผนการจัดฟันแนะนำการรักษารวมถึงสรุปรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมด

– หลังจากตกลงเริ่มจัดฟัน ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ฟันและเอ็กซเรย์ฟันก่อน เพื่อดูปัญหาการสบฟัน และลักษณะของขากรรไกร

– ถัดไปจะเป็นการเคลียร์ช่องปากเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการจัดฟัน เช่นขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด เป็นต้น

– ทันตแพทย์ทำนัดเข้ามาเพื่อทำการติดเครื่องมือจัดฟันตามขั้นตอนการจัดฟันฟันแบบโลหะ

– จากนั้นเข้าพบทันตแพทย์ที่รักษาการจัดฟันเพื่อปรับเครื่องมือและเปลี่ยนยางจัดฟันในทุกๆเดือน

– หลังจากจัดฟันเสร็จแล้วขั้นตอนการจัดฟันแบบโลหะสุดท้ายทันตแพทย์ทำการพิมพ์ปากทำรีเทนเนอร์ ใส่รีเทนเนอร์คงสภาพฟันไว้

การจัดฟันแบบโลหะเหมาะกับใคร

การจัดฟันแบบโลหะ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฟันมีการเรียงตัวไม่สมดุลไม่เข้ารูป ปัญหาฟันเก ปัญหาฟันมีความซับซ้อนมาก รวมไปถึงการสบฟันและความผิดปกติของขากรรไกรเบื้องต้น จัดฟันแบบโลหะสามารถจัดได้ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ แต่จะแนะนำเป็นในวัยรุ่นสะส่วนใหญ่ การจัดฟันแบบโลหะควรเริ่มจัดเมื่อฟันแท้ขึ้นครบหมดแล้ว

ข้อดีจัดฟันแบบโลหะ

– แก้ปัญหาได้ทุกปัญหาฟัน เคสซับซ้อนหรือมีการสบฟันที่ผิดปกติได้ดี

– สามารถเลือกสีสันของยางจัดฟันได้ตามใจชอบ

ข้อเสีย

– การจัดฟันแบบเหล็กต้องเข้าคลินิกทุกเดือนเพื่อปรับเครื่องมือและเปลี่ยนยางจัดฟัน

– มีข้อจำกัดในการทานอาหารเพราะอาจทำให้ตัวแบล็คเก็ตหลุดได้

– อาจมีอาการเจ็บปวดฟันหรือเครื่องมืออาจบาดช่องปากได้เนื่องจากเครื่องมือทำมาจากโลหะ

– ใช้ระยะเวลาในการจัดฟันนานกว่าแบบใส

สรุป

ไม่ว่าการจัดฟันมีกี่แบบจะเป็นการจัดฟันแบบโลหะหรือการจัดฟันแบบใส แบบไหนก็สามารถช่วยแก้ไขปัญหาฟันได้ทุกแบบ เพียงแต่มีความต่างในด้านของวัสดุ ขั้นตอนการจัดฟัน ราคา ที่ต่างกันออกไป ทั้งนี้ผู้ที่สนใจและกำลังศึกษาที่จะเริ่มจัดฟันก็ต้องมองไปถึงความต้องการและความเหมาะสมว่าการจัดฟันแบบไหนที่จะเหมาะกับตัวผู้จัดฟันนั่นเอง สำหรับว่าผู้ที่สงสัยว่าการจัดฟันมีกี่แบบ  และมีขั้นตอนการจัดฟันต่างกันยังไง ทั้งนี้ทาง ​​Clearisma หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ขอให้คุณมีสุขภาพฟันที่ดี

สอบถามปัญหาฟันและข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม คลิกเลย

อื่นๆเพิ่มเติม จากจัดฟันใส เทคนิคClearisma

รีวิวลูกค้าจัดฟันของทาง Clearisma

รีวิวจัดฟันแบบใส Clearisma X MonnyLife